‘A Time to Fly บินล่าฝัน’ การต่อสู้เพื่อสิทธิ ‘เด็กไร้สัญชาติ’ ผ่านเครื่องบินกระดาษของ หม่อง ทองดี
-ก
ก
ก+
Light
Dark
ฟังบทความ
...
LATEST
Summary
- ในปี พ.ศ. 2552 ข่าวที่ได้รับความสนใจจากชาวไทยทั้งประเทศ และเป็นข่าวที่สื่อพร้อมใจกันนำเสนอมากที่สุด ก็คือ ข่าวของ หม่อง ทองดี เด็กชายวัย 11 ปีจากจังหวัดเชียงใหม่ที่ชนะการแข่งขันร่อนเครื่องบินกระดาษพับในระดับประเทศ และได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการเข้าแข่งขันระดับนานาชาติที่ประเทศญี่ปุ่น …แต่ปัญหามันติดอยู่ตรงที่ว่าเขาเป็น ‘เด็กไร้สัญชาติ’
- การต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งการมีชื่อ-นามสกุล และหมายเลขประจำตัวปรากฏอยู่บนบัตรประชาชนไทยของหม่อง สาหัสสากรรจ์จนอาจจะกล่าวได้ว่า มันยากเย็นแสนเข็ญยิ่งกว่าการใช้ความพยายามไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เพื่อให้เครื่องบินกระดาษที่เขาพับลอยอยู่กลางอากาศได้นาน 19 วินาทีเสียอีก เพราะมันต้องแลกมากับความมุ่งมั่นอย่างไม่ย่อท้อ นานถึง 2 ทศวรรษ กว่าที่เขาจะได้สัญชาติไทยตามที่ได้ใฝ่ฝันเอาไว้
- ภาพยนตร์เรื่อง ‘A Time to Fly บินล่าฝัน’ ผลงานการกำกับของ โส่ย-ศักดิ์ศิริ คชพัชรินทร์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคอย่างไม่ท้อถอยของ หม่อง ทองดี ตั้งแต่เป็นเด็กชายวัย 11 ปีจนเติบโตเป็นวัยรุ่น โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ทบทวนความคิดด้วยตัวเอง ผ่านการพับกระดาษให้เป็นเครื่องบินลำน้อย แล้วโยนมันออกไปให้โบยบินอยู่กลางเวหาครั้งแล้วครั้งเล่าของเด็กชายหม่อง
- สำหรับหม่องแล้ว เด็กไร้สัญชาติอย่างเขาก็ไม่ต่างไปจากเครื่องบินกระดาษที่คนทั่วไปมองว่า มันเป็นของถูก ไร้ค่าไร้ราคา แต่เมื่อปรับเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ กระดาษธรรมดาสามัญแผ่นบางๆ ก็สามารถถูกเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นสิ่งสำคัญ มากกว่าคุณค่าอันต่ำต้อยที่คนทั่วไปตัดสินเอาจากภายนอกหลายเท่า
- โดยหม่องยังพูดถึงความฝันของเขาที่อยากเห็นเด็กไร้สัญชาติได้มีสิทธิ์ได้เข้าเรียนในระบบการศึกษาไทยไว้ว่า “เด็กทุกคนมีศักยภาพหมด ไม่ว่าจะมี หรือไม่มีสัญชาติก็ตาม ทุกคนสามารถเป็นแพทย์ เป็นอาจารย์ที่สอนเด็กให้มาพัฒนาประเทศ เป็นบุคลากรที่เข้ามาช่วยเหลือประเทศไทยในด้านต่างๆ ได้ ผมอยากให้ภาครัฐแก้ไขตรงนี้ครับ”
...
Author
ศรัณยู ตรีสุคนธ์
นักเขียนฟรีแลนซ์ด้านภาพยนตร์-ดนตรี สนุกกับการแปลข่าวบันเทิงและสัมภาษณ์ศิลปินต่างประเทศ ชอบดูคอนเสิร์ตเป็นชีวิตจิตใจ พร้อมกันนั้นก็ถ่ายรูปสตรีทเป็นงานอดิเรกกึ่งจริงจัง